แวะเวียน 3 มุมเมือง 3 แบบ 3 สไตล์ อุดรฯ หนองคาย บึงกาฬ

คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่ ฉบับนี้ขอเปิดเนื้อหาด้วยบทเพลงอันเสนาะหูอันเป็นเอกลักษณ์ของคนอีสาน ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า หากใครได้มาเยือนถิ่นอีสานดินแดนแห่งอารยธรรมสิ่งแรกที่ต้องหลงใหลและประทับใจ นั่นคือเสียงบทเพลง การมีไมตรีจิตพร้อมกับการต้อนรับที่หาที่ไหนไม่ได้ และเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะ Big Map ฉบับนี้จึงขอเอาใจคนชอบเที่ยวไลฟ์สไตล์แบบบ้าน ๆ เยือนถิ่นอารยธรรม 3 มุมเมือง ดินแดนแห่งอินโดจีน อุดรฯ หนองคาย และบึงกาฬ ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่ที่จะทำให้คนชอบเที่ยวได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ปะหนึ่งการออกเดินทางในครั้งนี้คุณต้องพูดได้คำเดียวว่า มวนอีหลี๋เด้อ
หากพูดถึงอีสานนอกจากจังหวัด นครราชสีมา (โคราช) แล้วในภูมิภาคอีสานมีที่ไหนที่น่าสนใจอีกบ้างที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี คำถามนี้คงจะเป็นคำถามที่มักจะมีเสมอสำหรับขาล่องชอบเที่ยว  แต่ Big Map ขอบอกเลยว่า อีสานทุกวันนี้ไม่เหมือนกับสมัยก่อน มีความอุดมสมบูรณ์ในด้านธรรมชาติที่เพียบพร้อม อีกทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีซึ่งยังคงอนุรักษ์ไว้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเท่าปัจจุบัน อีสานจึงได้รับขนานนามว่าแผ่นดินที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร.....ก่อนออกเดินทางต้องขอบอกก่อนเลยว่าต้องพกกล้องไปสักตัว รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนกับทิปนี้
เริ่มกันที่ จ.อุดรธานี เมืองเศรษฐกิจแห่งอีสานตอนบน และเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องการท่องเที่ยว แต่หลายคนคงนึกไม่ออกว่า จ.อุดรฯ มีที่เที่ยวที่ไหนบ้างที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจและอยากกลับมาเที่ยวอีก ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า จ.อุดรฯ เป็นจังหวัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ผู้คนอยู่กันอย่างเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย คนสมัยเก่าและสมัยใหม่อยู่กันได้อย่างลงตัวไปพร้อมกับบรรยากาศแบบบ้าน ๆ สไตล์คนอีสาน หากใครมาถึง จ.อุดรฯ สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ก่อนเข้าเมืองคือ ไหบ้านเชียงยักษ์สูงเท่าประมาณตึก 5 ชั้น เป็นเครื่องปั้นดินเผาที่ตั้งตระหง่านอวดโฉมอยู่แยกบายพลาสก่อนเข้าเมือง สถาปัตยกรรมที่เชิญชวนผู้มาเยือนแวะเวียนกันมาอย่างมากหน้าหลายตา ภายในสามารถเข้าไปดูความงามและถ่ายรูปเอาไว้อวดเพื่อน ๆ ให้อิจฉากันไปเลยครับ
หลังจากเรียกน้ำย่อยกันไปเรียบร้อยแล้วก็ไปต่อกันที่ห้าง UD TOWN Open air Mall  ใหญ่ที่สุดในประเทศ แวะจับจ่ายซื้อของหรือนั่งจิบน้ำสักแก้วคงจะหายเหนื่อย หากมีโอกาสพักค้างคืนในตัวเมืองอุดรฯ ก็คงจะดีไปอีกแบบเพราะว่าห้าง UD TOWN หากเดินเวลากลางคืนจะได้บรรยากาศมากเลยครับ ก่อนออกเดินทางจาก จ.อุดรฯ หากสังเกตดูดีดี บนเส้นทางอุดรฯ มุ่งหน้าไป จ.หนองคาย จะเห็นหลักกิโลเมตรสูง 4 ชั้น ด้านในอาคารจะรวบรวมภาพสีน้ำมันของพระอริยสงฆ์ในภาคอีสานที่พุทธศาสนิกชนนับถือทั้งประเทศนำมาไว้ที่นี่เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาเข้ากราบไหว้เป็นสิริมงคล
 
แต่หากใครที่มีเวลาออกนอกตัวเมืองอุดรฯ ก็สามารถไปได้เช่นกันครับโดยเฉพาะ มรดกโลก บ้านเชียง แหล่งอารยธรรมแห่งสยามประเทศ ที่ทำให้รับรู้ถึงการดำรงชีวิตในสมัยก่อนประวัตศาสตร์ ย้อนหลังไปกว่า ๔,๓๐๐ ปี ไปต่อกันที่อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทบัวบก ตั้งอยู่เชิงเขาภูพานเป็นอุทยานฯ ที่แสดงถึงอารยธรรมของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิประเทศซึ่งมีโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นหินทรายที่ถูกขัดเกลาจากขบวนการกัดกร่อนทางธรรมชาติทำให้เกิดเป็นโขดหินน้อยใหญ่รูปร่างต่าง ๆ กัน ปรากฏเป็นหลักฐานเกี่ยวกับชีวิตผู้คนในอดีตที่น่าสนใจ จุดที่น่าสนใจในอุทยานฯ ก็มีในส่วนของ หอนางอุษา ที่มีความโดดเด่นอยู่ในตัว และอีกจุดหนึ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ จ.อุดรฯ คือคำชะโนด สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์  เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่อาศัยอยู่และเป็นสถานที่สู่เมืองบาดาลของพญานาคตามความเชื่อของคนเถ่าคนแก่ และมีเรื่องเล่าคานถึงผีจ้างหนังในป่าคำชะโนด ซึ่งปัจจุบันนี้สถานที่แห่งนี้ก็ได้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาดูป่าลี้ลับกันอย่างไม่ขาดสาย
หลังจากพักผ่อนเต็มอิ่มที่ จ.อุดรฯ แล้วไปต่อกันที่ จ.หนองคาย เมืองแห่งมนต์ขลังดินแดนแห่งพยานาค จังหวัดที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก จ.หนองคายเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความหลากหลายในเรื่องการท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวเทศแวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยทัศนียภาพที่ติดกับแม่น้ำโขงสามารถมองทิวทัศน์ฝั่งลาวได้อย่างสุดลูกหูลูกตา ต้องขอบอกก่อนเลยว่าหากได้พักที่หนองคายสักคืนสองคืนคงจะไม่เสียเที่ยวครับ แต่ต้องเลือกทำเลที่พักติดแม่น้ำโขงหน่อยนะครับถึงจะได้บรรยากาศ ตกเย็นนั่งรับลมเย็น ๆ ไปพร้อมกับ Dinner มื้อพิเศษกับหวานใจคงจะเป็นอีกหนึ่งความประทับใจแบบไม่รู้ลืมก็อาจเป็นได้ครับ ไปต่อกันด้วยเดินเล่นลิมฝั่งโขงชมทัศนียภาพทั้งสองฝั่งโขงสร้างความโรแมนติกนิด ๆ ตามสไตล์แบบบ้าน ๆ ของคนอีสาน
พอรุ่งเช้าหากอยากชมบรรยากาศทะเลหมอกบนท้องแม่น้ำโขงก็ต้องหอบสังขารขึ้นมาชมตั้งแต่เช้าหน่อยนะครับถึงจะได้รับโอโซนเต็มปอด นอกจากนี้ยังมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่ทอดตัวยาวข้ามผ่านแม่น้ำโขงความยาวราว ๆ 1 กิโลกว่า ๆ แต่น่าเสียดายนะครับที่ขึ้นไปได้แค่ครึ่งสะพานเพราะหากจะข้ามไปต้องไปทำเรื่องกับทางเจ้าหน้าที่โดยเสียค่าทำเนียมผ่านทาง 50 บาท ที่ ตอม้อ ก่อนขึ้นสะพานฝั่งไทย แต่หนังสือผ่านแดนชั่วคราวในราคา 80 บาท อยู่ได้ 2 คืน 3 วัน หรือจะข้ามไปซื้อของแบบไปเช้าเย็นกลับที่  ตลาดปลอดภาษี แต่หากจะข้ามไปเที่ยวที่นครหลวงเวียงจันทร์แบบเช้าเย็นกลับทางเจ้าหน้าที่ก็มีรถจากนครหลวงเวียงจันทร์คอยให้บริการในอัตรา 1,500 บาท ต่อ 1 คัน/วัน ราคานี้รวมค่าอาหารที่เวียงจันทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ หากจะข้ามไปก็ต้องเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางดีดีนะครับ โดยเฉพาะ Money เพราะว่าของเกรด A ที่ฝั่งลาวราคาถูกมากครับแต่เป็นของก๊อปเกรด A ขอบอกก่อนซื้อนะครับว่าซื้อของที่ลาวปากต้องไวในการต่อราคา ยิ่งต่อเล่นตัวเท่าไร่ยิ่งได้ของราคาถูกเท่านั้น
หรือหากใครไม่อยากออกนอกพื้นที่ก็สามารถเดินเที่ยวที่ตลาดท่าเสด็จหรือตลาดอินโดจีนของ จ.หนองคาย ได้เช่นกันครับ ตลาดที่นี่มีความยาวราว ๆ 500 เมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งโขงพร้อมกับร้านอาหารที่ยื่นออกมายังแม่น้ำโขง เห็นภาพทิวทัศน์ได้อย่างสุดหูสุดตา ไว้คอยต้อนรับนักเดินช็อปปิ้ง หากได้น้ำดื่มเย็น ๆ สักแก้วคงจะทำให้หายเหนื่อยกันไปเลยครับ            จากนั้นก็แวะเข้านมัสการหลวงพ่อพระใส ที่วัดโพธิ์ชัย พระคู่บ้านคู่เมืองของคนอีสาน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดท่าเสด็จ หรือจะนั่งรถกินลมออกตัวเมืองหนองคายนิดนึง ไปศาลาแก้วกู่ หรืออุทยานเทวาลัย ชาวบ้านเรียกว่าวักแขก สถาปัตยกรรมที่สวยงามและอลังการงานสร้างโดยแฝงด้วยความศรัทธาของชาวหนองคายและผู้มาเยือน ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน
หลังจากเดินกินลมชมวิวที่ จ.หนองคาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Big Map ขอพาไปเยือน จ. บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ล่าสุดของประเทศไทย หลายคนคงยังไม่คุ้นหูกับ จ.บึงกาฬ ๆ อยู่ห่างจากตัว จ.หนองคาย ไปทางตอนใต้ประมาณ 130 กิโลเมตร ด้วยเหตุนี้เองที่ จ.บึงกาฬ ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นจังหวัดเพราะอยู่ห่างไกลการติดต่อหน่วยงานราชการของประชาชน และด้วยทัศนียภาพที่บ่งบอกถึงจังหวัดน้องใหม่ ต้องมีความหลากหลายไม่แพ้กับจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยว บึงกาฬ มีภูมิประเทศที่ติดกับแม่น้ำโขงสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์ถ่ายรูปเก็บไว้ดูก็ไม่เสียหาย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและคนเมืองกาฬไปยอดฮิต
เริ่มกันที่หาดทรายขาว อยู่ตัวเมืองบึงกาฬ เป็นหาดทรายขาวราวกับเพชรริมฝั่งแม่น้ำโขง มีความสวยงามระยะทางยาวประมาณ 2 กม. ยามเช้าและเย็นอากาศดีลมพัดเย็นสบาย และความสวยงามเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าหากจะสร้างบรรยากาศกับหวานใจหรือโพสท่าใส่กล้องคงจะเข้าบรรยากาศยามเย็น
จากนั้นก็แวะชมแก่งอาฮง อยู่ตัวเมืองบึงกาฬเช่นกัน เป็นจุดลึกสุดของลำน้ำโขง ชาวบ้านเชื่อกันว่าอาฮงเป็น สะดือ ของแม่น้ำโขง  ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดอาฮงศิราวาส นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดช่วงออกพรรษา วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งเป็นช่วงบั้งไฟพญานาค แต่หากใครจะไปดูบั้งไฟพญานาค ขอบอกนะครับว่าต้องรีบจองที่พักและวางแผนไว้แต่เนิ่น ๆ นะครับเดียวที่พักเต็มกันพอดี
ต่อกันด้วยนั่งดูวิถีชีวิตชาวบ้านที่ใช้ชีวิตในการทำมาหากินที่ หนองกุดทิง หนองน้ำแห่งนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น พื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญระดับโลก (พื้นที่แรมซาร์) แห่งที่ 11 ของประเทศไทย มีปลาที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกถึง 20 สายพันธ์ มีนกพันธุ์ต่าง ๆ กว่า 40 ชนิด เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน ชื่นชมธรรมชาติในวันสบาย ๆ
หลังจากเที่ยวกันจนเพลินเชิญแวะกันที่ตลาดสองฝั่งโขง (อ.บึงกาฬ)  เป็นตลาดริมแม่น้ำโขง ที่มีพ่อค้าแม่ค้าทั้งคนไทยคนลาวข้ามฟากมาเปิดขายสินค้าในท้องถิ่นกันอย่างคึกคัก ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง เสื้อผ้า ของกินพื้นถิ่น เดินเล่นชิลล์ ๆ สไตล์คนอีสานในบรรยากาศแบบพื้นบ้าน แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนนะครับตลาดเปิดเฉพาะวันอังคารกับวันศุกร์แต่หากจะออกนอกพื้นที่ไปเที่ยวในอำเภอต่าง ๆ ของ จ.บึงกาฬ ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-4232-5406-7
                จากประสบการณ์ใหม่ทั้ง 3 จังหวัด 3 รส 3 สไตล์ หรือใครที่ชอบเที่ยวแบบบ้าน ๆ ก็สนุกไปอีกแบบนะครับตลอดระยะเส้นทางการท่องเที่ยวสิ่งหนึ่งที่จะรู้สึกประทับใจคือร้อยยิ้มของคนอีสานที่สื่อถึงการต้อนรับเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นความทรงจำของนักท่องเที่ยวที่ใครได้มาสัมผัสแล้วก็ต้องอยากหาเวลากลับไปเที่ยวอีกเหมือนเดิม และสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้คือเสียงเพลงหมอลำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนอีสาน ไม่แน่นะครับโปนแกรมนี้อาจจะเป็นหนึ่งโปรแกรมที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะไปก็เป็นได้ มากไปกว่านั้นยังมีเรื่องรามที่น่าสนใจในหลาย ๆ เรื่อง ในเส้นทาง อุดรฯ หนองคาย บึงกาฬ
เรื่องที่ 1
อุดรฯ มีจุดชมวิว ในวนอุทยานภูฝอยลม ตั้งอยู่ อ.หนองแสง มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น ๆ และบรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีเหมาะกับการพักผ่อนในวันสบาย ๆ
เรื่องที่ 2
อุดรฯ มีเขื่อนที่ชื่อว่า เขื่อนห้วยหลวง ซึ่งเขื่อนแห่งนี้มีธรณีวิทยาที่น่าศึกษาและเป็นเขื่อนหนึ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงคนอุดรฯ
เรื่องที่ 3
อุดรฯ มีสวนสาธารณสุขหนองประจักษ์ที่มีขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมืองอุดรฯ เดิมเรียกว่า หนองนาเกลือ โดยแต่ละวันจะมีชาวไทยและเทศแวะเวียนกันมาพักผ่อนและออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก
เรื่องที่ 4
อุดรฯ มีวนอุทยานนายูงน้ำโสม น้ำตกยูงทอง ซึ่งห่างออกไปจากตัวเมืองอุดรฯ ราว ๆ 100 กิโลเมตร วนอุทยานแห่งนี้ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะช่างหน้าฝนที่มีน้ำตกขึ้นชื่ออย่างน้ำตกยูงทอง
เรื่องที่ 5
อุดรฯ มีวัดที่ขึ้นชื่อมากมายโดยเฉพาะวัดป่าบ้านตราดของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน นอกจากจะเป็นวัดที่ให้สงบจิตสงบใจ วัดนี้ก็ยังมีความหลากหลายทางชีวภาพ
เรื่องที่ 6
อุดรฯ ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า ภายในพิพิธภัณฑ์ยังสามารถเข้าชมความงามทางธรณีวิทยาได้อีกด้วย
เรื่องที่ 7
อุดรฯ มีวัดที่ชื่อวัดภูย่าอู่หรือชาวบ้านเรียกว่าวัดหลวงพ่อทองใบ ตั้งอยู่บนยอดเขาภูพาน โดยมีความสวยงามทั้งทางธรณีวิทยา และจุดชมวิวไปพร้อมกับการฝึกปฏิบัติธรรม ภายในวัดมีความร่มรื่นซึ่งหาได้อยากในปัจจุบัน
เรื่องที่ 8
หนองคาย มีหาดทรายขาวจอมมณี ริมฝั่งโขงเป็นบริเวณกว้าง เมื่อน้ำลดจะเห็นหาดทรายได้ชัดเจนโดยหาดจะติดกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
เรื่องที่ 9
หนองคาย มีที่ศึกษาดูปลาน้ำจืด  โดยมีอาคารขนาดใหญ่ที่คอยบริการผู้ที่อยากจะเปิดประสบการณ์ใหม่ สถานที่ตั้งอยู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย
เรื่องที่ 10
หนองคาย มีพระธาตุบังพวนซึ่งมีลักษณะเจดีย์ที่เก่าแก่และเป็นพระธาตุองค์หนึ่งที่มีความสำคัญต่อภาคอีสาน ประดิษฐานอยู่ ณ บ้านพระธาตุบังพวนก่อนเข้าตัวจังหวัดหนองคาย
เรื่องที่ 11
หนองคาย มีสระพญานาค ซึ่งเป็นสระที่คู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคายมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในทุก ๆ ปีชาวหนองคายจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่เพื่อนมัสการพระธาตุบังพวนขึ้นในเดือนยี่ ขึ้น 11 ค่ำ
เรื่องที่ 12
หนองคาย อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ เป็นอนุสาวรีย์แห่งเดียวในจังหวัดหนองคาย ที่เทิดทูนความดีของผู้ล่วงลับไปแล้วในการปราบฮ่อ ในปี ร.ศ. 105 (พ.ศ. 2429) เสด็จในกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม รับสั่งให้สร้างอนุสาวรีย์ไว้ที่เมืองหนองคาย เพื่อบรรจุอัฐิของผู้ที่เสียชีวิตในการปราบฮ่อ สมกับเป็นอนุสาวรีย์ของผู้ที่ได้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง ให้เป็นศรีสง่าแก่เมืองหนองคายสืบไป โดยมีคำจารึกที่อนุสาวรีย์ทั้ง 4 ทิศ ทั้งภาษาไทย จีน ลาว และอังกฤษ ทางจังหวัดได้กำหนดให้มีการจัดงานบวงสรวงและฉลองอนุสาวรีย์เป็นประจำทุกวัน ที่ 5 มีนาคม ของทุกปี
เรื่องที่ 13
หนองคาย มีวัดหลวงพ่อองค์ตื้อ ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าบ่อ หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทอง ฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามมาก สร้างด้วยทองนั่งขัดสมาธิปางมารวิชัยและเป็นวัดประจำภาคอีสาน
เรื่องที่ 14
หนองคาย มีหมู่บ้านประมงน้ำจืด อยู่ที่ตำบลกองนาง ท่าบ่อ ซึ่งชาวบ้านมีอาชีพทำการประมงน้ำจืด มีการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาตะเพียน ปลาไน ปลานวลจันทร์ ปลายี่สกเทศ ปลาเกล็ดเงิน ปลาหัวโต และปลาดุกเทศ โดยจัดส่งไปจำหน่ายยังกรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคอีสาน เป็นที่น่าสนใจในด้านวิถีชีวิตอย่างหนึ่ง
เรื่องที่ 15
บึงกาฬ มีเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว (อ. บุ่งคล้า) ผืนป่าใหญ่ของ จ. บึงกาฬ และเป็นป่าอนุรักษ์ที่สวยสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของภาคอีสาน ภายในพื้นที่มีน้ำตกสวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกถ้ำฝุ่น
เรื่องที่ 16
บึงกาฬ มีน้ำตกเจ็ดสี (อ. บุ่งคล้า) น้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว สายน้ำไหลตกจากหน้าผาหินทรายแล้วแผ่กว้างออกสวยงามตระการตา ด้านล่างมีแอ่งน้ำสำหรับเล่นน้ำและโขดหินให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ
เรื่องที่ 17
บึงกาฬ มีบึงโขงหลง (อ. บึงโขงหลง) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ที่มีหาดทรายทอดยาวในช่วงฤดูหนาว เป็นแหล่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์
เรื่องที่ 18
บึงกาฬ มีน้ำตกตาดกินรี (อ. บึงโขงหลง) อยู่ในป่าภูลังกา เป็นน้ำตกใหญ่ไหลลงสู่หุบเหว น้ำตกชั้นบนไหลลดหลั่นกันไปตามลานหินกว้าง และมีแอ่งน้ำใสให้เราสามารถลงไปเล่นน้ำกันได้
เรื่องที่ 19
บึงกาฬ มีภูทอก (อ.ศรีวิไล ) ภูเขาหินทราย ที่มีวัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่เชิงเขา และมีสะพานไม้สร้างวนเวียนขึ้นไปสู่ยอดเขารวม 7 ชั้น สามารถมองเห็นความสวยงามของภูมิประเทศเบื้องล่างได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ถ้าในวันที่อากาศแจ่มใสอาจมองได้ไกลถึงเทือกเขาในเขตจังหวัดนครพนม
เรื่องที่ 20
บึงกาฬ มีวัดสว่างอารมณ์ (อ. ปากคาด) ภายในวัดมีโบสถ์อยู่บนก้อนหินใหญ่ หลืบถ้ำด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพาน บริเวณด้านบนก้อนหินเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์สวยงามของแม่น้ำโขง
                                                                                                                                                     

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความสุข ความสงบ ณ วัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน

วัดศรีมงคล (ก๋ง) อ.ท่าวังผา จ.น่าน