ผมมีเรื่องมาเล่า

ถ้าหากพูดถึงสมุนไพรในไทย คงจะมีมากมายแบบนึกไม่ออกโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ที่มองไปทางไหนก็สามารถเห็นและนำมาทำเป็นอาหารได้เพียงไม่กี่วินาที
ส้มป่อยหรือส้มขอน เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยมในกรนำมาปรุงเป็นอาหารของชาวเหนือ ชาวอีสาน โดยส้มป่อยจะมีลักษณะเป็นไม้พุ่มรอเลื้อยมีหนามตามลำต้น กิ่ง ก้านและใบ ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับยาว 7-20 เซนติเมตร ใบย่อย รูปขอบขนาน ขนาดเล็ก ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ เป็นช่อกลมกลีบดอกเป็นหลอด สีนวล ผลเป็นผัก สีน้ำตาลดำ ผิวย่นขรุขระ ขอบมักเป็นคลื่น
ฝักมีสารออกฤทธ์กลุ่มซาโบนินสูงถึง 20.8 เปอร์เซ็น ได้แก่ acacinin A,B,C,D และ E ซึ่งถ้าตีกับน้ำจะเกิดฟองที่คงทนมากตามตำรายาไทยใช้สระผมแก้รังแค ต้มน้ำอาบหลังคลอด หรือชุบสำลีปิดแผลโรคผิวหนัง นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาขับเสมหะก็ได้
แต่ปัจจุบันส้มป่อยเริ่มจะไม่เป็นที่รู้จักของเด็กรุ่นหลังๆ มากเท่าที่ควร หารู้หรือไม่ว่านอกจากจะเป็นยาชั้นดีแล้วยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารชั้นเลิศได้อีกด้วย อาทิ ต้มไก่ ต้มปลา ซึ่งคนในภาคเหนือและภาคอีสานจะนิยมกินกันเป็นส่วนมาก และในปัจจุบันส้มป่อยกำลังจะหมดไปจากผืนดินไทย เพราะไม่มีคนปลูกหรือทำเป็นสวนที่จะรักษาไว้ แม้แต่คนในภาคเหนือหรือภาคอีสานเองก็ตาม แต่ถ้าหากวันนี้และวันต่อๆ ไปหากแต่เห็นถึงความสำคัญมากกว่านี้คงจะมีหนทางที่จะรักษาส้มป่อยสืบต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความสุข ความสงบ ณ วัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน

วัดศรีมงคล (ก๋ง) อ.ท่าวังผา จ.น่าน