ความสุขเล็กๆ หลังโควิด สวนผึ้ง ราชบุรี
มันเป็นเรื่องจริงที่ทุกคนบนโลกใบนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า
การมีชีวิตที่เป็นอิสระ คือชีวิตที่มนุษย์เราต้องการทุกคน
เราอาจจะได้ยินคำว่า “ถึงเวลาที่ธรรมชาติทวงคืน” มาสักระยะหนึ่งบ้างแล้ว
นั่นอาจจะเป็นคำพูดที่เล่าต่อกันมาอาจจะเป็นจริง เพราะทั่วทุกมุมโลก ณ ตอนนี้ต่างต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19
(Covid-19) ชนิดที่แบบว่าทุกคนแทบตั้งตัวกันไม่ทัน
โชคดีหน่อยในประเทศไทยเราสามารถยับยั้งโรคนี้ได้แบบที่ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
แต่ก็ยังไม่สามารถไว้ใจอะไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้
เพราะทุกมุมโลกยังเผชิญกับโรคอันน่าสะพรึงกลัวนี้อยู่
เอาละผมได้เกลิ่นมาพอสมควรแล้ว
เอาเป็นว่าเรามาเล่าเรื่องที่จะทำให้เราได้เดินทางออกไปหลังโควิดในประเทศของเราที่กำลังดีวันดีคืนขึ้นดีกว่าแม้ว่าบางสถานที่ยังไม่เปิดให้เข้าชมแบบเต็มรูปแบบ แต่ผมเชื่อว่าด้วยหัวใจของนักเดินทางคงเก็บไว้มานานและคงจะหาสถานที่ไปสักที่หนึ่งว่ามั้ยครับ
วันก่อนผมได้เดินทางไปสวนผึ้ง จ.ราชบุรี สวนผึ้งขึ้นชื่อมานานเรื่องการท่องเที่ยว
เมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวขจี ยิ่งไปหน้าฝนช่วงนี้
ยิ่งเขียวสวยงามมาก ผมจะขอเล่าประสบการณ์ของผมไปแค่ช่วงนี้นะครับ
เพราะช่วงอื่นไม่เคยไป เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ผมขอเล่าแบ่งเป็นเรื่องๆ
ไปนะครับ
การขับรถเที่ยวที่สวนผึ้งเป็นอะไรที่ดีมากๆ เพราะถนนดีครับ ไปมาสบาย
ถนนสวยโอบล้อมไปด้วยขุนเขาเขียวขจี ผมว่าสวิตฯ เลยก็ว่าได้ อากาศช่างเป็นใจทุกอย่าง
ผมกับเพื่อนขับรถไปที่แรกก็คือ ตลาดโอ๊ะป่อย คำว่าโอ๊ะป่อยผมไม่แน่ใจว่ามาจากภาษาอะไร
แต่การไปครั้งนี้รู้สึกผิดหวังหน่อยหนึ่งเพราะตลาดยังไม่เปิด แต่บังเอิญสายตาผมได้มองทะลุเข้าไปเห็น
ผมต้องใช้คำว่ามันแทบจะไม่มีเค้าโคลงของคำว่าตลาดเลย เพราะมันพัง ทรุดโทรมไปหมด
ภาพก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เคยไปเห็นด้วยซิ ยังไงอ่านมาถึงตรงนี้ ใครเคยไปลองคอมเมนต์
หรือแชร์รูปมาให้ดูหน่อยนะครับ ผมกับเพื่อนเลยเลยถามคนแถวนั้น
จนได้คำตอบว่ามีอีกสถานที่แห่งหนึ่งชื่อตลาดเฌอซีญ่า
ตลาดเฌอซีญ่า
เป็นตลาดสไตล์ทางเหนือๆ หน่อย เท่าที่ผมสังเกตุดูน่าจะพึ่งสร้างตลาดขึ้นมาใหม่
เป็นตลาดเล็กๆ ในหมู่บ้านมีแม่น้ำไหลผ่าน บรรยากาศผมคิดว่า
เป็นสถานที่พักผ่อนได้ในระดับหนึ่ง หลังจากที่ผมกับเพื่อนดื่มด่ำบรรยากาศสักพักหนึ่ง
เราก็เดินทางไปยังน้ำตกเก้าชั้น หรือน้ำตกเก้าโจน
น้ำตกเก้าชั้นมีทั้งหมด
9 ชั้น ระยะทางเดินประมาณ 4 กม. เป็นน้ำตกที่อยู่บนเขาติดกับตะเข็บชายแดนไทยพม่า
วันที่ผมไปกับเพื่อนน้ำยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เราอาศัยการเดินชมพืชพรรณไม้ไปเรื่อยๆ
จนถึงชั้นที่ 3 ของน้ำตกเราก็ได้ตัดสินใจเดินกลับดีกว่า
เพราะน้ำในวันที่ผมไปไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่ภาพรวมบรรยากาศได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบนั้นก็ถือว่าเต็มที่
อุทยานแห่งชาติเขางู
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผมกับเพื่อนได้แวะเวียนไป ผมรับรู้ได้ถึงมนต์ขลังความลึกลับ
ความซ้อนเล้น ประวัติความเป็นมาอย่างไรผมไม่ขออธิบายนะครับ
ขอเล่าภาพรวมที่ผมสัมผัสมา ภูเขาตั้งอยู่ 3 ลูก ตรงกลางเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่พอสมควร
สามารถปั่นจักรยานน้ำได้ แต่ปั่นในวงที่จำกัดมีเจ้าหน้าที่ดูแล เมื่อเดินเข้าไปด้านขวามือจะเป็นสะพานข้ามไปยังสะพานไม้ทอดยาวให้เดินไปยังศาลาที่อยู่ลึกเข้าไป
บรรยากาศโดยรวมผมว่าที่นี่มีเสน่ห์มาก
หวังว่าทิปท่องเที่ยวเล็กๆ
นี้จะช่วยเป็นตัวเลือกให้เหล่าบรรดาขาล่องได้ออกเดินทางหลังโควิด
ผมหวังว่าความสุขเล็กๆ ของผมในวันนั้นจะช่วยส่งต่อความสุขในวันนี้นะครับ
พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยครับ
อ้ออย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยน๊า!!!!!!....และอย่าลืมแชร์ให้ผมด้วยนะครับ